“เกลเซอร์” กล่าวขอโทษแฟนผีแดง หลังถอนตัวซูเปอร์ลีก

โจเอล เกลเซอร์ ประธานสโมสรร่วมของ แมนฯ ยูไนเต็ด แถลงขอโทษแฟนบอลปีศาจแดง หลังเข้าร่วมแนวคิดการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ก่อนจะมีการถอนตัวจากโปรเจคต์นี้เมื่อวานที่ผ่านมา

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เราทุกคนได้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ฟุตบอลสร้างขึ้นมา และความภักดีอันลึกซึ้งที่แฟนๆ มีให้ต่อสโมสรแห่งนี้ คุณคัดค้านการแข่งขันยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก อย่างชัดเจน และเราก็รับฟัง เราทำผิด และเราก็ต้องการแสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำให้ถูกต้องได้

แม้ว่าบาดแผลจะยังใหม่อยู่ และผมเข้าใจว่าต้องใช้เวลาสักพักกว่ารอยแผลจะหาย แต่โดยส่วนตัวแล้วผมมุ่งมั่นที่จะสร้างความไว้วางใจให้กับแฟนๆ ของเราอีกครั้ง และเรียนรู้จากข้อความที่คุณส่งมาพร้อมกับความเชื่อมั่นนี้

เรายังคงเชื่อว่าฟุตบอลยุโรปจะต้องมีความยั่งยืนมากขึ้นทั่วทั้งระบบปิรามิดในระยะยาว อย่างไรก็ตามเรายอมรับอย่างเต็มที่ว่าซูเปอร์ลีกไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการดำเนินการต่อไป ในความพยายามสร้างรากฐานที่มั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับเกมการแข่งขัน เราล้มเหลวในการแสดงความเคารพต่อประเพณีที่ฝังรากลึกอย่างมาก ทั้งเลื่อนชั้น ตกชั้น ระบบปิรามิด และด้วยเหตุนี้เราจึงต้องขอโทษ

นี่คือสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเราต้องขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องไม่สงบขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะทำให้ถูกต้อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีมรดกอันล้ำค่า และเราตระหนักถึงความรับผิดชอบในการดำเนินชีวิตตามประเพณี และค่านิยมอันยิ่งใหญ่

การแพร่ระบาดได้ทำให้เกิดความท้าทายที่ไม่เคยเจอมาก่อน และเราภูมิใจในวิธีที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนๆ จากแมนเชสเตอร์ทั่วโลกมีปฏิกิริยาต่อแรงกดดันมหาศาลในช่วงนี้เราต้องตระหนักว่าเราจำเป็นต้องสื่อสารกับคุณ กับแฟนบอลของเรา เนื่องจากคุณคือหัวใจสำคัญตลอดมาของสโมสร

ในเบื้องหลัง คุณสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ในการแข่งขัน โดยมีมุมมองที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายในระยะยาวที่ต้องเผชิญกับระบบปิรามิดฟุตบอล ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือสนับสนุนทุกอย่างของทีมต่อไป ขณะที่พวกเขาจะพยายามจบฤดูกาลด้วยผลงานที่ดีที่สุด

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้รู้ว่านี่คือการสนับสนุนของคุณที่ทำให้สโมสรแห่งนี้ยอดเยี่ยมอย่างมาก และเราต้องขอขอบคุณสำหรับสิ่งเหล่านั้น

ด้วยความนับถือ
โจเอล เกลเซอร์

.

Facebook Comments