ฝันสลาย! ตระกูลเกลเซอร์ลั่นนโยบายโหดเสริมทัพ ต้องโละขายก่อนชื้อใหม่
ตระกูลเกลเซอร์ ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องขายนักเตะให้ได้ในช่วงตลาดซื้อขายพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ เพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อผู้เล่นมาเข้ามาเสริมแกร่ง จากการเปิดเผยของ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นชื่อดัง
“เร้ด เดวิลส์” เพิ่งจะมีข่าวว่ายื่นข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์ (ราว 2,730 ล้านบาท) เพื่อสู่ขอ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษ จาก “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเร็วๆ นี้ แต่โดนปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยเพราะต้นสังกัดของนักเตะต้องการค่าตัวสูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,120 ล้านบาท) สำหรับในช่วงซัมเมอร์นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ พยายามอย่างมากที่จะเซ็นสัญญากับผู้เล่นกองหลังเพื่อหวังให้เกมรับของทัพ “ปีศาจแดง” แข็งแกร่งกว่าเดิม โดย “น้าลูกอม” ได้กระชากตัว อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาดาวรุ่ง มาจาก คริสตัล พาเลซ ด้วยราคา 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,950 ล้านบาท) มาร่วมทีมแล้ว อย่างไรก็ตาม โซลชา ยังคงหวังให้บอร์ดบริหารสโมสรทุ่มเงินเพื่อซื้อนักเตะเป้าหมายที่เขาต้องการเข้ามาเสริมแกร่ง โดย อดีตหัวหอกซูเปอร์ซับ ได้ลิสต์รายชื่อผู้เล่นสตาร์หลายรายที่เขาสนใจซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพชาวโปรตุกีสด้วย
กระนั้น แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ รายงานว่าแผนการเสริมทัพของ โซลชา อาจจะต้องชะงัก เนื่องจากตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศชัดเจนว่าต้องการให้ทีมขายผู้เล่นที่ไม่มีประโยชน์ออกไปก่อนที่จะทุ่มเงินเพื่อซื้อแข้งใหม่ สำหรับแข้งที่ครอบครัวเกลเซอร์ต้องการให้ปล่อยตัวออกไปทันทีก็คือ มาร์กอส โรโฮ ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ โดยนักเตะรายนี้ซึ่งไม่มีอนาคตในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกแล้ว เคยมีมูลค่า 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,170 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว แต่น่าเสียดายที่ “ผีแดง” ไม่สามารถปล่อยตัวเขาออกไปได้
แน่นอนว่านโยบายในการเสริมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ คงต้องพับเอาไว้ก่อน เพราะครอบครัวเกลเซอร์ ยืนกรานต้องการให้สโมสรขายผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการสร้างทีมออกไปก่อนที่จะดึงนักเตะใหม่เข้ามาร่วมสังกัด โดยแนวทางนี้เคยสร้างความผิดหวังสมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียนทีม มาแล้ว