เด เกอาช่วยไม่ไหว! “เลสเตอร์” เปิดรังรัวอัด “แมนยู” 4-2
พรีเมียร์ลีก 2021-2022 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 8 เป็นการพบกันระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-4-1-2 ใช้หน้าต่ำเป็น เจมส์ แม็ดดิสัน ทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง เคเลชี อิเฮียนาโช และ เจมี วาร์ดี้
ด้านทีมเยือนของ โอเล กุนนาร์ โซลชา วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น คริสเตียโน โรนัลโด้ ทำเกมรุกร่วมกับ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน แฟร์นันด์ส และ เจดอน ซานโช
เริ่มเกมได้ 19 นาที เป็นฝั่งของยูไนเต็ดมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ บรูโน แฟร์นันด์ส ไหลบอลออกไปทางกราบขวาให้ เมสัน กรีนวู้ด จัดการลากตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้ายพุ่งเช็ดเสาไกลเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่งให้ปีศาจแดงบุกนำ 1-0
แต่แล้วนาทีที่ 31 เลสเตอร์ก็มาได้ประตูตีเสมอ จากความผิดพลาดของ แฮร์รี แม็คไกวร์ ซึ่งไปโดน เคเลชี อิเฮียนาโช ฉกแย่งบอลทางกราบขวาแล้วจ่ายเข้ากลางให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ตวัดยิงด้วยขวาโค้งเสียบสามเหลี่ยมสาไกลอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลนี้
ครึ่งหลังกลายเป็นเลสเตอร์มาได้ประตูพลิกขึ้นนำ ในนาทีที่ 78 จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ ยูริ ตีเลอมันส์ เปิดแล้วลูกลึกไปตกใส่เท้าของ แพ็ตสัน ดาก้า ได้ยิงด้วยขวาติดเซฟ ดาบิด เด เคอา มาเข้าทาง ชาลาร์ โซยุนจู ตวัดยิงซ้ำจ่อ ๆ ด้วยซ้ายไม่เหลือ ช่วยให้จิ้งจอกสยามแซงนำ 2-1
แต่ถัดมานาทีที่ 82 ยูไนเต็ดก็มาเป็นฝ่ายตามตีเสมอได้บ้าง จากจังหวะที่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ วางบอลยาวตั้งแต่แดนหลังขึ้นไปให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าแล้วไปแตะบอลยิงด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2
ทว่านาทีที่ 83 หรือต่อมาเพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น เลสเตอร์ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ เจมี วาร์ดี้ ยิงด้วยขวาพุ่งเสียบเสาไกลอย่างเฉียบคม ส่งให้จิ้งจอกสามนำอีกรอบ 3-2
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+1 เลสเตอร์มาบวกลูกสี่ฉีกหนีไปอีก จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ ยูริ ตีเลอมันส์ เปิดเข้าเขตโทษแล้วบอลแฉลบเลยไปเสาไกลถึง แพ็ตสัน ดาก้า ได้แท็บอินด้วยขวาระยะเผาขนอย่างง่ายดาย เป็นประตูแรกของเขากับต้นสังกัดด้วย ช่วยให้จิ้งจอกสยามนำห่าง 4-2
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเลสเตอร์ ซิตี้ชนะไป 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 11 คะแนน รั้งอันดับ 11 ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 5 ยังมี 14 คะแนนเท่าเดิม และถูกหยุดสถิติไร้พ่ายเกมเยือนในพรีเมียร์ลีกไว้ที่ 29 เกม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิล; แดเนียล อมาร์ตีย์, จอนนี อีแวนส์ (ยานนิค เวสเตอร์การ์ด น.88), ชาลาร์ โซยุนจู; ริคาร์โด้ เปเรรา, ยูริ ตีเลอมันส์, บูบาการี ซูมาเร, ทิโมธี กาสตาญ; เจมส์ แม็ดดิสัน (อโยเซ เปเรซ น.73); เคเลชี อิเฮียนาโช (แพ็ตสัน ดาก้า น.77), เจมี วาร์ดี้
สำรองไม่ได้ใช้ : ไรอัน เบอร์ทรานด์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, แดนนี วอร์ด, ฮัมซา เชาฮ์ดรี้, อเดโมลา ลุคแมน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา; อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์; ปอล ป็อกบา, เนมานยา มาติช (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.80); เมสัน กรีนวู้ด (เจสซี ลินการ์ด น.80), บรูโน แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.65); คริสเตียโน โรนัลโด้
สำรองไม่ได้ใช้ : เอริค ไบญี, ฆวน มาต้า, ดิโอโก้ ดาโลต์, ดีน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ เตลลีส, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค
ใบเหลือง – วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ น.52, อารอน วาน-บิสซาก้า น.85, ปอล ป็อกบา น.86
.
.
.
.