ฟีฟ่าพิจารณาถก “กฎความเมตตา” ยกเคสเกม หงส์ถล่มผี
ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ประธานผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เผยเกมที่มีสกอร์ขาดลอยไปเช่นเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯยูไป 7-0 ควรพูดถึงในเรื่องการทดเวลา หรือเป่าจบเกมใน 90 นาที หรือไม่
หัวหน้าผู้ตัดสินของฟีฟ่าชาวอิตาเลียน ได้อ้างอิงตัวอย่างเกมของ ลิเวอร์พูล ที่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-0 ว่า 6 ประตูเกิดขึ้นในครึ่งหลัง ซึ่งแอนดี แมดลีย์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวได้มีการต่อเวลาออกไป 3 นาทีนั้น ในกรณนี้เช่นนี้ ฟีฟ่า อาจจะมีกฎยกเว้นการต่อเวลากับเกมที่มีสกอร์ห่างมากเกินกว่าจะมีการพลิกเกมกันได้
แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อโต้แย้งว่า เป็นการปิดกั้นทีมที่นำอยู่ที่จะทำประตูได้เพิ่มขึ้นเพื่อนผลต่างประตูได้เสีย ที่มีผลต่อการตัดสินตำแหน่งในลีก เมื่อจบฤดูกาล
“ในเกมดังกล่าว (ที่แอนฟิลด์) มีการทดเวลาในครึ่งแรก 1 นาที และ ทดเวลา 3 นาทีในครึ่งหลัง ผมเข้าใจดีเรื่องของการทดเวลาบาดเจ็บ แต่ในกรณีที่สกอร์ห่าง 7-0 มันก็ยากที่จะเข้าใจเรื่องการทดเวลาออกไป แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงกันว่าในลีก มีเรื่องของผลต่างประตูได้ลบเสีย ที่จะถูกนำมาพิจารณาเรื่องของอันดับในช่วงท้ายฤดูกาล แม้แต่ประตูเดียวที่ทำได้หรือไม่ได้ก็สามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น”
“ในอนาคตเรากำลังพิจารณถึงเรื่อง “กฎความเมตตา “แม้ว่าสิ่งนี้จะต้องเขียนลงในกฎหมายของเกม ไม่ใช่ดุลยพินิจของผู้ตัดสิน เราอาจพิจารณาที่จะพูดว่าไม่ต้องต่อเวลาเพิ่มเติมเมื่อจบการแข่งขันหากมีผลต่างประตู ‘X’ ระหว่างทีม ในบางช่วง เราต้องพิจารณาว่าอะไรคือสามัญสำนึกและอะไรไม่ใช่ แต่สิ่งนี้จะอยู่ในกฎของเกม”
โดยที่ผ่านมา ฟีฟ่า ได้มีการผลักดันรูปแบบของการทดเวลาบาดเจ็บให้เหมือนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ทดเวลาหายไปตามจริง ซึ่งในเรื่องนี้พรีเมียร์ลีก ก็เล็งที่จะนำวิธีการดังกล่าวมาใช้ในฤดูกาลหน้าเช่นกัน
.