เกมรุกไม่กระเตื้อง! 5 ประเด็นหลังแมนยู เก็บชัยเหนือ เลสเตอร์
1.เกมรุกยังไม่กระเตื้อง
แม้เกมนี้ ผีแดง จะเก็บชัยชนะที่รอคอยได้สำเร็จ แต่เชื่อว่าแฟนผีคงยังไม่พอใจกับรูปเกมมากนักโดยเฉพาะการเข้าทำเกมรุกที่ยังติดๆขัดๆตลอด การขาด ปอล ป็อกบา ที่บาดเจ็บมีผลกระทบค่อนข้างเยอะ การใช้ ฆวน มาต้า เล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์ ยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้น้อย แม้จะเป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัดแต่ฟอร์มของเขาก็โรยราลงตามอายุแล้ว
พอกองกลางตัวรุกของทีมเล่นไม่ออก กองหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ได้บอลน้อยตามไปด้วย ขณะที่ อันเดรียส เปเรยร่า การออกสตาร์ทตัวจริงทางริมเส้นฝั่งขวายังดูไม่เวิร์คเท่าไหร่นัก เขาทำเสียบอลอยู่หลายครั้ง กลายเป็นว่าความหวังในเกมรุกตกไปอยู่กับเจ้าหนูวัย 21 ปี ดาเนี่ยล เจมส์ ซึ่งเจ้าตัวก็ถือว่าอายุยังน้อยทำให้ยังขาดความแน่นอน ทางออกเดียวของ โซลชา คือการเสริมทัพเท่านั้นแต่ก็คงต้องรอให้ถึงตลาดหน้าหนาวเสียก่อน ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่ากุนซือจะแก้ปัญหาในช่วงก่อนเปิดตลาดนักเตะอย่างไร
2.เกมรับปรับปรุง
ก่อนเกมนี้ “ปีศาจแดง” เพิ่งจะเก็บคลีนชีทได้แค่นัดเดียวเท่านั้น แน่นอนว่านัดนี้แฟนผีคงจะกังวลกับเกมรับพอสมควรเนื่องจากผู้เล่นตัวหลักอย่าง ลุค ชอว์ บาดเจ็บ ขณะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ผ่านความฟิตวินาทีสุดท้ายคาดว่ายังไม่สมบูรณ์มากนัก ส่วน วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ก็ทำพลาดเสียประตูบ่อยครั้งจนทำให้ทีมเสียแต้ม
อย่างไรก็ตามนัดนี้เกมรับของผีแดงถือว่าเป็นระเบียบมากขึ้น ฝั่งขวาอย่าง วาน-บิสซาก้า ยังคงเล่นป้องกันเกมรับไร้ที่ติ ขณะที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สามารถตัด เจร์มี่ วาร์ดี้ ออกจากเกมได้ทำให้ทีมเล่นง่ายขึ้น คนที่โชว์ฟอร์มได้ผิดคาดมากคือ แอชลีย์ ยัง ที่โชว์ฟอร์มสุดเพอร์เฟคในการรับมือเกมรุกทางฝั่งขวาของทีมจิ้งจอก ส่วน ลินเดอเลิฟ หากไม่นับลูกที่พลาดช่วงต้นเกม เจ้าตัวถือว่าเคลียร์บอลในจังหวะสำคัญได้ตลอด
หลังเกม โซลชา ก็ออกปากชมเกมรับซึ่งพาให้ทีมเก็บชัยชนะและยังรักษาคลีนชีทได้ แต่เราก็คงต้องต้องดูนัดถัดๆไปว่าพวกเขาจะรักษามาตรฐานแบบนี้ได้ตลอดหรือไม่
3.หนูแม็คพิสูจน์ตัวเอง
ไม่พูดถึง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็คงไม่ได้เพราะว่าเขาโชว์ฟอร์มโดดเด่นมากในเกมนี้ ก่อนเริ่มแมทช์แฟนผีแดงคงจะเป็นห่วงกองกลางของทีมเนื่องจากการขาดหายไปของ ปอล ป็อกบา โซลชา จึงเลือกที่จะใช้ แม็คโทมิเนย์ จับคู่กับ เนมานย่า มาติช ในแผงมิดฟิลด์ ซึ่งกลายเป็นว่า แม็คโทมิเนย์ ได้ฉายแววการเล่นมิดฟิลด์แบบ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ให้เห็นเต็มตา แม้ทีมจะได้ครองบอลน้อยกว่าคู่แข่ง แต่เรื่องการช่วยเกมรับ การครองบอลและการเบรกเกมรุกที่มีแนวรุกโหดๆทั้ง ยูริ ตีเลม็องส์ และเจมส์ แมดดิสัน ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม หากเขาพัฒนาเรื่องการจ่ายบอลและการทำเกมรุก เขาจะกลายเป็น บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่การที่เขาโชว์ฟอร์มได้แบบนี้ไม่แปลกใจที่ โซลชา จะไว้วางใจเขาให้เป็นตัวจริงในทีมชุดนี้
4.โซยุนคู ยังต้องปรับ
ก่อนเกมนี้หลายคนน่าจะจับตามอง คากลาร์ โซยุนคู แนวรับชาวตุรกีซึ่ง เลสเตอร์ ซิตี้ หวังจะดันให้เป็นตัวแทนของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ย้ายไปอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด เริ่มเกมได้ไม่ดีนักหลังดันไปทำเสียฟาล์วง่ายจนเสียจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นก็มีหลายครั้งที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะสมาธิหลุด แต่ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญให้เขาพัฒนาฟอร์มต่อไป โซยุนคู อายุแค่ 23 ปีเท่านั้นยังคงมีเวลาพิสูจน์ตัวเองอีกมาก
5.เลสเตอร์แพ้ทาง
การพ่ายแพ้ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้ทำให้พวกเขาบวกสถิติในการปราชัยต่อ แมนฯยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลายเป็น 9 นัดจาก 10 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 9) เรียกได้ว่าเป็นทีมที่แพ้ทางผีแดงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้สถิติส่วนตัวของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็ยังไม่สู้ดีนักเนื่องจากเขาพ่ายแพ้ 5 จาก 6 นัดในการมาเยือน แมนฯยูไนเต็ด (ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 5) ปิดท้ายด้วยสถิติของผีแดงซึ่งหลังจากเก็บชัยชนะได้สำเร็จทำให้พวกเขายังคงไร้พ่ายในเกมลีกตลอด 134 นัดที่เล่นในบ้านเมื่อพวกเขายิงประตูขึ้นนำคู่แข่งก่อน (ชนะ 123 เสมอ 11 แพ้ 0)