แย่ลง! ปีศาจแดง ขายหุ้น 13 เปอร์เซนต์พยุงการเงินสโมสร

สถานะการเงินของแมนฯยูไนเต็ด ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และ เควิน เกลเซอร์ หนึ่งในเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมขายหุ้นจำนวน 13 เปอร์เซนต์ เพื่อพยุงสถานะทางการเงินของสโมสร

“ปีศาจแดง” ขายหุ้น 13 เปอร์เซนต์พยุงการเงินสโมสร

นับตั้งแต่ มัลคอล์ม เกลเซอร์ เทกโอเวอร์ แมนฯยูไนเต็ดเมื่อ 14 ปีก่อน ก็สามารถรวบรวมหุ้นมาเป็นกรรมสิทธิ์ได้ถึง 90 เปอร์เซนต์ แต่หลังจากที่เจ้าตัวเสียชีวิตเมื่อปี 2014 ก็ได้ส่งมอบหุ้นให้กับทายาทโดย เควิน เป็น 1 ใน 6 สมาชิกตระกูลเกลเซอร์ ที่ได้ถือครองหุ้นสโมสรด้วย

อย่างไรก็ตามจากผลงานที่ตกต่ำของทีม ทำให้รายได้ตามการประเมินในปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้  อีกทั้งการไม่ต่อสัญญาคาดหน้าอกของ “เชฟโรเลต” ยังทำให้ “ปีศาจแดง” ต้องชวดรายได้ 440 ล้านปอนด์หลังจบฤดูกาล 2020-21 ดังนั้น เควิน จึงโดนบีบให้ยอมขายหุ้น 13%  ที่ตัวเองถือครอง เพื่อเปิดให้นักลงทุนสามารถช้อนซื้อเพื่อเปลี่ยนเข้ามาเป็นเงินอัดฉีดเข้าสู่สโมสรแทนที่

โดยนอกจากผลประกอบการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ค่อยสู้ดีแล้ว สโมสรยังครองแชมป์จ่ายเงินค่าเหนื่อยนักเตะสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย ซึ่งทาง “เดอะ มิร์เรอร์” เปิดเผยว่า ปีศาจแดง จ่ายเงินค่าจ้างให้กับนักเตะสูงถึง 332 ล้านปอนด์ หรือ 12,782 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้นถึง 43 เปอร์เซนต์ในช่วง 3 ปีหลัง โดยนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในปัจจุบันคือ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูชาวสเปนที่รับทรัพย์อยู่สัปดาห์ละ 375,000 ปอนด์ หรือกว่า 14.4 ล้านบาท

ส่วนทีมที่จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะแพงเป็นอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ 264 ล้านปอนด์ต่อปี และอันดับ 3 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดที่ 260 ล้านปอนด์

Facebook Comments