อย่าให้บ๊วยติดคอ! ประเด็นร้อนระอุ ก่อนผีแดง แมนยูเปิดบ้าน ฟัด นกขมิ้น นอริช

1.แม็กไกวร์หายทัน?

    แฟนผีแดงคงเป็นกังวลอย่างมากเมื่อปราการหลังคนสำคัญอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มีอาการเอ็นสะโพกฉีกจากเกม เอฟเอ คัพ นัดที่เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน จนทำให้พลาดเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ในศึกคาราบาว คัพเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แถมตอนแรกมีรายงานว่าเจ้าตัวอาจจะต้องพักยาวนานถึง 2 เดือนเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ตามล่าสุด โซลชา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมแล้วว่า แม็กไกวร์ ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงเหมือนกับที่สื่อต่างๆเขียนกัน และยังมีลุ้นที่จะกลับมาลงสนามช่วยทีมฟัด นอริช ซิตี้ ในคืนนี้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้สาวกเร้ด อาร์มี่ น่าจะอุ่นใจไม่น้อย เพราะการขาด เซนเตอร์ทีมชาติอังกฤษรายนี้ ทำให้ส่งผลต่อแนวรับมากมายเห็นได้จากเกมพ่าย แมนฯซิตี้ มารอดูกันว่าคืนนี้เขาจะฟิตพร้อมลงสนามหรือไม่

2.เรียกความมั่นใจก่อนแดงเดือด!

    โปรแกรมของ “ผีแดง” ในช่วงนี้ค่อนข้างทรหดจนน่าเห็นใจ ก่อนหน้านี้พวกเขากรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นการเจอ อาร์เซน่อล, วูล์ฟแฮมป์ตัน และแมนฯซิตี้ ซึ่งผลการแข่งขันก็หนักหนาสาหัสทั้งสิ้น ขณะที่หากมองข้ามเกม นอริช คืนนี้ไป พวกเขามีคิวต้องดวลกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ใน เอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์ ก่อนที่จะทำศึกแดงเดือดในวันอาทิตย์หน้า หลังจากนั้นก็ยังมีโปรแกรมหนักต่อเนื่องในการเจอ เบิร์นลีย์, แมนฯซิตี้ (คาราบาว คัพ นัดสอง), วูล์ฟแฮมป์ตัน และเชลซี อีก 

    หากมองจากโปรแกรมแล้วพวกเขาจำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ในคืนนี้เพราะถือว่าไม่ได้เกมยากเย็นเหมือนนัดอื่น และถือเป็นการเรียกความมั่นใจกลับมาก่อนที่จะมีโปรแกรมหนักรออยู่ คืนนี้ “ปีศาจแดง” จะคว้าสามแต้มแรกของปี 2020 ได้ไหม?

3.แจกแต้มน้องใหม่/ทีมท้ายตาราง?

    ฉายา “โรบินฮู้ด” อาจจะใช้ไม่ค่อยได้กับช่วงนี้เพราะเปิดปีใหม่มาผีแดงก็พ่ายแพ้ให้กับทั้ง อาร์เซน่อล และแมนฯซิตี้ แต่มันก็มีสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยสองเกมหลังสุดที่ แมนฯยูไนเต็ด เล่นในบ้านเจอกับทีมน้องใหม่นั้นพวกเขาเก็บชัยชนะไม่ได้เลย เกมแรกคือการพ่ายแพ้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในนัดปิดท้ายฤดูกาลที่แล้ว ขณะที่อีกหนึ่งนัดคือการเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 2-2 เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หากคืนนี้พวกเขาเก็บชัยชนะไม่ได้จะทำให้ไม่ชนะทีมน้องใหม่ในบ้าน 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1990 เลยทีเดียว

    นอกจากนี้ แมนฯยูไนเต็ด ยังปราชัยให้กับทีมที่อยู่ในโซนท้ายตาราง 3 จาก 5 เกมหลังสุด (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3) ซึ่งนัดล่าสุดคือการพ่ายแพ้ วัตฟอร์ด 2-0 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

4.นกขมิ้นร่วงโรย

    ลูกทีมของ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ อาการหนักพอสมควรเพราะพวกเขาเพิ่งชนะแค่ 3 นัดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล แม้เกมล่าสุดจะกลับมาชนะได้ด้วยการบุกอัด เปรสตัน 4-2 ในศึกเอฟเอ คัพ แต่ก่อนหน้านั้น 7 นัดทีม “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ไม่ชนะใครเลยจนหล่นไปอยู่เป็นบ๊วยของตารางแล้วแถมมีแต้มห่างจากโซนปลอดภัยถึง 7 แต้ม และหากพูดถึงชัยชนะเกมลีกล่าสุดต้องย้อนกลับไปในนัดที่บุกชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว

    ยิ่งไปกว่านั้นคืนนี้ นอริช อาจจะต้องเจอข่าวร้ายเมื่อ ตีมู ปุ๊กกี้ ดาวยิงตัวเก่งของพวกเขามีอาการเดี้ยงที่เอ็นหลังหัวเข่าทำให้ต้องลุ้นเช็คฟิตอย่างหนักหน่วง กลายเป็นงานยากที่เดียวในการเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ถ้าหากพวกเขาสามรถเก็บหนึ่งแต้มออกมาได้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในจุดประกายการหนีตกชั้นก็เป็นได้

5.ตำแหน่งที่ถนัดของเปเรยร่า?

    ตำแหน่งกองกลางตัวรุกคงจะเป็นปัญหาล้านแปดที่พูดไม่จบเสียทีหากทีม “ปีศาจแดง” ไม่ทำการเสริมทัพด่วนๆ ทว่าหากนับตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ระหว่าง เจสซี่ ลินการ์ด, ฆวน มาต้า และอันเดรียส เปเรยร่า เชื่อว่าแฟนผีแดงคงอยากเห็น เปเรยร่า ในตำแหน่งนี้มากที่สุด เพราะดูจะเป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัดที่สุดและทำผลงานได้ดีกว่าสองคนก่อนที่เหลือ แม้อาจจะได้ดีเลิศเหมือนกองกลางตัวรุกทีมอื่นแต่ ณ เวลานี้ ผีแดง ก็คงต้องเลือกนักเตะที่ดีที่สุดในตำแหน่งนั้นๆ

    ทว่าด้วยปัญหากองกลางที่ขาดแคลนทั้ง ปอล ป็อกบา และสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำให้เขามักถูกจับลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางอยู่บ่อยครั้งซึ่งก็ไม่ได้ทำผลงานน่าประทับใจเท่าไหร่นัก ยิ่งในเกมล่าสุดที่เขาลงเล่นคู่กับ เฟร็ด ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ทำให้เห็นว่าเจ้าตัวทำเกมรุกและป้องกันเกมรับไม่ได้เลยในตำแหน่งนี้ ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือการใช้ เนมานย่า มาติช ลงเล่นคู่กับ เฟร็ด และดัน เปเรยร่า ไปเล่นเป็นกองกลางตัวรุก แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า โซลชา จะเลือกใช้ใครลงเล่นคืนนี้แต่ที่แน่ๆ เจสซี่ ลินการ์ด จะอดลงเนื่องจากป่วยหนักก่อนเกม