ขนหัวลุกเลย! “โรโฮ” หอบลูกเมียเผ่นหนีเกาะสวาท กลัวอาถรรพ์ตายสยอง
มาร์กอส โรโฮ กองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เจ็บพักยาวไป ถึงกับขนหัวลุกเมื่อทราบเรื่องสุดพิศวงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวที่เกาะในโดมินิกัน ส่งผลให้เจ้าตัวรีบตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าพาครอบครัวเผ่นออกจากเกาะดังกล่าวทันที เพราะกลัวโดนพิษอาถรรพ์แสนประหลาด
จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อดังในประเทศอังกฤษ กองหลังชาวอาร์เจนไตน์โพสต์ภาพผ่านเว็บไซต์อินสตาแกรม ขณะกำลังมีความสุขร่วมกับครอบครัวในช่วงพักผ่อนที่ โรงแรมฮาร์ด ร็อค โฮเทล แอนด์ คาซิโน่ ในปันตา คานา แต่หารู้ไมว่าที่โรงแรมดังกล่าวเกิดเรื่องประหลาดชวนขนหัวลุกก่อนที่เขาจะมาพักที่นี่ และเมื่อทราบเรื่อง โรโฮ รีบเก็บเสื้อผ้าพาครอบครัวออกจากโรงแรมทันที
เรื่องราวน่าพิศวงปนหลอนแสนสะพรึงกลัวเริ่มขึ้นเมื่อ เบลล์ วัลเลซ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ป่วยหลังจากดื่มที่มินิบาร์ในโรงแรมเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 3 วันหลังจากนั้น ยังไม่จบแค่นั้นเมื่อมีนักท่องเที่ยวเลือดมะกันอีก 3 รายกลายสภาพเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ในห้องพักของพวกเขาที่โรงแรมอื่นๆ บนเกาะแห่งนี้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
มิรันด้า ชาร์ป-เวอร์เนอร์ วัย 41 ปีจากเพนซิลวาเนีย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค. หลังจากที่เธอดื่มที่มินิบาร์ในบาเฮีย ปรินซิปี ลา โรมานา อีก 5 วัดถัดมา เอ็ดเวิร์ด โฮล์มส์ วัย 63 ปี และ ซินเธีย เดย์ วัย 49 ปี ซึ่งเป็นคู่หมั้นจากแมรี่แลนด์ ถูกพบร่างไร้วิญญาณอยู่ในห้องพักที่รีสอร์ทเดียวกัน
เมื่อเจอเรื่องสยองขวัญแบบนี้ทำให้ โรโฮ ยกเลิกแผนพักผ่อนที่โดมินิกันทันที เพราะหวั่นใจจะโดนอาถรรพ์บนเกาะแห่งนี้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจโดมินิกัน เปิดเผยว่าหลังจากที่มีการชันสูตรพลิกศพแล้วนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน เสียชีวิตตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามครอบครัวของบรรดาผู้เสียชีวิตยังคงคาใจ และต้องการคำอธิบายที่ระเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว