แฟร์นันด์ส ได้ลงไหม ? เปิดประเด็นร้อนก่อนเกม แมนยู ปะทะ วูล์ฟส์
อย่างไรก็ตาม “หมาป่า” ก็มีทีเด็ดในเรื่องของเกมรุก โดยเฉพาะ ราอูล ฮิเมเนซ กับ อดาม่า ตราโอเร่ ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขา และสามารถสร้างอันตรายให้กับเกมรับของ “ปีศาจแดง” ที่ตอนนี้ยังไม่ลงตัว กระนั้น วูล์ฟส์ ก็ยังต้องเจอกับด่านสุดหินในการทำประตู เนื่องจาก ดาบิด เด เคอา ช่วงนี้ฟอร์มเหนียวหนึบเหลือเกิน
ที่สำคัญแมตช์นี้มีความหมายมากๆ กับ “ผีแดง” และ วูล์ฟส์ เพราะหากทีมใดชนะก็มีสิทธิ์ที่จะขยับเข้าไปใกล้ตำแหน่งท็อปโฟร์ เพราะสัปดาห์นี้โปรแกรมค่อนข้างเอื้อเหลือเกินเนื่องจาก เชลซี ต้องดวล เลสเตอร์ ขณะที่ สเปอร์ส ปะทะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1. แนวรับ “ผีแดง” เจอแนวรุกสุดดุ “หมาป่า”
ตอนนี้หากแฟนบอลพูดถึง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ แน่นอนว่าทุกๆ เสียงต้องเอ่ยชื่อนักเตะที่กำลังฟอร์มสุดโหดในเวลานี้ก็คือ ราอูล ฮิเมเนซ กับ อดาม่า ตราโอเร่ สองสตาร์ที่ทำผลงานได้สยดสยองเหลือเกิน ไม่เชื่อลองไปถาม ลิเวอร์พูล ดูก็ได้
กระนั้นไม่ใช่ว่าตำแหน่งอื่นๆ ของ “หมาป่า” อ่อนด้อยนะครับ เพียงแต่สองแข้งนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและมีผลต่อเกมของ วูล์ฟส์ ฉะนั้นจึงเป็นงานที่สุดแสนหนักหนาสาหัสเหลือเกินสำหรับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่จะต้องรับมือกับพวกเขา
งานนี้หาก แม็กไกวร์ กับ เลิฟ สามารถจัดการ ฮิเมเนซ ไม่ให้ออกลีลาซ่าทำประตูพวกเขาได้ละก็ มีโอกาสสูงมากที่ทีมจะได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ แต่หากทั้งสองคนเสียสมาธิแม้แต่เสี้ยววินาที ก็มีสิทธิ์โดนลงโทษได้ ซึ่งแนวรับ “หงส์แดง” ที่ว่าแกร่งแสนแกร่งก็เคยเจอมาแล้ว
ส่วนนักเตะที่น่าจะต้องเจองานหนักที่สุดก็คือผู้เล่นแบ็กซ้าย เพราะต้องรับมือกับ ตราโอเร่ ที่ตอนนี้ฟอร์มขึ้นหม้อเหลือเกิน หาก โซลชา เลือกใช้งาน ลุค ชอว์ หรือ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ทั้งคู่จำเป็นต้องเปิดตำราศึกษาวิธีจัดการ ดาวเตะกล้ามโตรายนี้ให้ดีๆ ไม่งั้นมีสิทธิ์โดนวิ่งฉีกหนีกระจุยแน่ๆ
สำหรับตราโอเร่ ไม่ใช่มีดีแค่ความแข็งแกร่ง และความเร็วเท่านั้น เรื่องทักษะความสามารถเฉพาะตัวก็ไม่ธรรมดา การที่เขาเคยผ่านการศึกษาร่ำเรียนเพลงยุทธลูกหนังจากศูนย์เยาวชนลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า คงไม่ต้องบอกว่าเทคนิคส่วนตัวยอดเยี่ยมขนาดไหน
2. แฟร์นันด์ส มาแล้ว
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของเกมนี้การลุ้นให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงสนาม โดยจากคำให้สัมภาษณ์ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีความเป็นได้สูงมากๆ ที่ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส จะได้มีส่วนเกี่ยวข้องในแมตช์นี้ เพียงแต่ว่าจะลงสนามในฐานะตัวจริง หรือเป็นเพียงยางอะไหล่เท่านั้น
ต้องยอมรับว่าการได้ แฟร์นันด์ส มาร่วมทีมช่วยทำให้บรรยากาศของทัพ “ผีแดง” ดูคึกคักมากขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจากนักเตะรายนี้มีทักษะชั้นยอด รวมไปถึงการสร้างสรรค์เกม ซึ่งเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายไปนานแล้ว และยังมีทีเด็ดในการยิงประตูซะด้วย
ฉะนั้น แฟร์นันด์ส น่าจะเข้ามาช่วยทีมในช่วงที่พวกเขาขาด ปอล ป็อกบา ได้เป็นอย่างดี และอาจจะยิ่งดีขึ้นเข้าไปอีกหาก จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส หายจากอาการบาดเจ็บ และ “น้าลูกอม” จับเขาลงสนามร่วมกับ อดีตกองกลางตัวเก่งสปอร์ติ้ง ลิสบอน
นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2017/18 แฟร์นันด์ส ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในศึกพรีเมียร่า ลีกา โปรตุกีส เมื่อมีส่วนร่วมกับการทำประตูของ สปอร์ติ้ง 67 ลูก, ยิงประตูนอกกรอบเขตโทษ (9 ลูก), สร้างโอกาสได้มากที่สุด (239 ครั้ง), ยิงมากที่สุด (271 ครั้ง) และยิงเข้าเป้ามากที่สุด (114 ครั้ง)
ก่อนหน้า แฟร์นันด์ส ตะบันไปแล้ว 32 ประตูจากการเล่นทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาให้กับ สปอร์ติ้ง ขณะที่ในฤดูกาลนี้ซัดไปแล้ว 15 ประตูจาก 28 แมตช์ที่เล่นให้ต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ ฉะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประโยชน์จากศักยภาพชั้นยอดของ จอมทัพเลือดฝอยทอง แน่นอน
3. เด เคอา กุญแจสู่ชัยชนะ
ไม่มีใครปฏิเสธว่า ดาบิด เด เคอา คือผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ ผลงานสุดเหนียวหนึบในช่วงที่ผ่านมาช่วยให้ทีมคว้าผลการแข่งขันที่น่าพอใจหลายเกม โดยเฉพาะกับแมตช์ที่ต้องสู้กับพวกทีมระดับบิ๊กซิกซ์ในฤดูกาลนี้
เกมล่าสุด นายทวารทีมชาติสเปน โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟหลายต่อหลายครั้งในแมตช์บุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าทีมจะอดเข้าไปชิงที่สนามเวมบลีย์ (แพ้สกอร์รวม 3-2) แต่สาวก “เร้ด อาร์มี่” คงรู้ซึ้งว่านี่คือนายทวารที่พวกเขาสามารถฝากผีฝากไข้ได้มากกว่ากองหลัง
การที่ทีมต้องเจอกับ วูล์ฟส์ สโมสรที่มีนักเตะที่มีเทคนิคสูง และเล่นได้อย่างดุดัน แน่นอนว่าการพึ่งพาเกมรับที่ในเวลานี้ยังคงมีปัญหา อาจจะมีสิทธิ์น้ำตาริน ดังนั้น เด เคอา น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทัพ “เร้ด เดวิลส์” คว้าผลการแข่งขันที่ต้องการได้
4. ไล่ล่าท็อปโฟร์
สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ค่อนข้างจะไม่น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะ ลิเวอร์พูล ทำคะแนนทิ้งห่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปไกลสุดกู่ ขณะที่อันดับ 3 มีความเป็นได้สูงว่า “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะคว้าไปครอบครอง
ฉะนั้นการลุ้นอันดับ 4 ดูเหมือนจะค่อนข้างสูสีมากๆ เนื่องจาก เชลซี เก็บไป 40 คะแนน โดย แมนฯ ยูไนเต็ด, “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ มี 34 คะแนนเท่านั้น ทำให้ทั้ง 4 ทีมมีโอกาสที่จะเบียดคว้าตั๋วใบสุดท้ายไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ยิ่งโปรแกรมสัปดาห์นี้ช่างเอื้ออำนวยให้กับทั้ง 4 สโมสรเหลือเกิน โดย เชลซี เยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ สเปอร์ส รับมือ แมนฯ ซิตี้ และ “ปีศาจแดง” เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ วูล์ฟส์ ฉะนั้นหากทีมใดพลาดท่าไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ สิทธิ์ที่จะต้องเสียวสันหลังกันเลยทีเดียว
5. วาทะกุนซือ
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา :
“อืมม วูล์ฟแฮมป์ตัน กับเรา ผมคิดว่าเรารู้จักกันและกันเป็นอย่างดี นี่เป็นเกมที่ 6 แล้วนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่เราต้องสู้กับพวกเขา และ 4 เกมในฤดูกาลนี้ ดังนั้นผมไม่คิดว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์จากทตัวโค้ชหรืออาจจะมีก็ได้ คุณไม่มีทางรู้ สำหรับผม แฟนบอลจะให้การหนุนหลังเรา และผมมั่นใจว่าพวกเขาจะหนุนหลังทีมอีกครั้ง พวกเขาสำคัญกับเรา และนี่เป็นเกมสำหรับสำหรับเรา”
นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต :
“มันคงเป็นงานสุดหินและเป็นเกมที่ยากมาก การไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเรื่องยากลำบากเสมอ และเราต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งมาก แต่เราพร้อม และรู้ว่าเราจะต้องสู้ให้เต็มที่ มันก็เหมือนกับทุกเกม แนวคิดก็เหมือนกัน เราทำผลงานได้ดี และเราจะบุกไปที่นั่นเพื่อพยายาม และทำให้ดียิ่งขึ้น พยายามแก้ไขข้อผิดพลาดที่เราเคยทำ พยายามเพิ่มความเฉียบคม แต่เราต้องเล่นให้ดีที่สุด เพราะเรากำลังจะสู้กับทีมที่แข็งแกร่ง”