บิ๊กแมคเชื่อ “ฟาน ไดจ์ค” หนึ่งเดียวหงส์แดงดีพอติดทีมผี ‘ทริปเบิ้ลแชมป์’
สตีฟ แมคคลาเรน มือขวาคนดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เป็นหนึ่งเดียวของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันที่พอจะอยู่ในทีมปิศาจแดงชุดคว้า ทริปเบิ้ลแชมป์ ปี 1999 ได้
อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ เป็นมือขวารู้ใจของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในยุคไร้เทียมทาน สามารถทำ 3 แชมป์สำคัญได้ในปี 1999 ประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ทีมผีสุดในตำนานได้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ลิเวอร์พูลของเยอร์เก้น คลอปป์ ที่กำลังระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมอยู่ในขณะนี้ และเตรียมยุติการรอคอยอันยาวนาน 30 ปี กลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดคือได้ หลังโกยคะแนนทิ้งอันดับสองห่างถึง 22 คะแนน
อย่างไรก็ตาม สกาย สปอร์ตส์ ได้มีโอกาสถาม แมคคลาเรน ว่ามีนักเตะลิเวอร์พูลในชุดปัจจุบันคนใดสามารถเข้าไปอยู่ในทีมคว้า 3 แชมป์ ปี 1999 ได้บ้าง แมคคลาเรน เชื่อว่า มีเพียง ฟาน ไดจ์ค เพียงรายเดียวเท่านั้นที่พอจะเล่นให้ทีมชุดนั้นได้
ฟาน ไดจ์ค ดีพอจะแทนที่ รอนนี่ ยอห์นเซ่น หรือ เวส บราวน์ จับคู่กับ ยาป สตัม เป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็กชาวดัตช์ที่แข็งแกร่งที่สุด ยืนอยู่หน้า ปีเตอร์ ชไมเคิล มีแบ็กขวาเป็นแกรี่ เนวิลล์, แบ็กซ้าย เดนิส เออร์วิ่น
ขณะที่แดนกลาง 4 รายเป็น ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, รอย คีน และเดวิด เบ็คแฮม
ในเกมรุก แม้หงส์แดงชุดนี้จะมีผู้เล่นแนวรุกที่จัดจ้านทั้ง โมฮาเหม็ดซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ แต่บิ๊กแมค ยังเลือกไว้วางใจดูโอ้ แอนดี้ โคล กับดไวท์ ยอร์ค มากกว่า
“เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค คือทายาทของ ยาป สตัม เป็นเซ็นเตอร์ฯที่สุดเหนียวแน่น ไม่มีใครสามารถผ่านพวกเขาไปได้” บิ๊กแมค แจง
“แต่สำหรับผม ถ้าเอาจริงๆ มีเพียง ฟาน ไดจ์ค ที่สามารถอยู่ในทีมนั้น (ทริปเบิ้ล ปี 1999) ได้”
“เมื่อมองไปยังทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชุดนั้น มีความเป็นผู้นำทั้งทีม และความเป็นผู้นำก็คือ คีย์แห่งความสำเร็จ”
“ลิเวอร์พูลเองก็กำลังพัฒนาไปให้ถึงระดับนั้นอยู่ในขณะนี้”
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากจะวัดว่าใครดีกว่าใคร เนื่องจากเกิดขึ้นคนละยุค เนื่องจากยูไนเต็ด ยิ่งใหญ่เป็นตำนานจากการทำ 3 แชมป์รายการหลัก แต่เส้นทางไปถึง 3 แชมป์ ถือว่าหนักมาก กว่าที่จะได้ชูถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ต้องลุ้นจนถึงช่วงเวลาทดเจ็บ ก่อนได้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซัดประตูชัยเหนือบาเยิร์น มิวนิค
ขณะที่แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็จะลุ้นไปจนถึงนัดสุดท้าย ก่อนเบียดอาร์เซนอล คว้าแชมป์แค่คะแนนเดียว ผิดกับทีมหงส์ในขณะนี้ที่ไร้คู่ต่อกร ไล่ทุบคู่แข่งสนุกมือ ทำคะแนนทิ้งรองจ่าฝูง 22 คะแนนไปแล้ว
